การใช้เครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Peripheral Magnetic Stimulation: PMS) ในการกายภาพบำบัดเพื่อการบำบัดและฟื้นฟู
การใช้เครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า Peripheral Magnetic Stimulation (PMS) เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในคลินิกการกระตุ้นแม่เหล็กแบบรอบข้างที่ดีที่สุด ช่วยบำบัดและฟื้นฟูอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ รวมถึงการเสื่อมของระบบประสาทที่เกิดจากการทำงานหรือโรคเรื้อรัง
ด้วยพลังงานแม่เหล็กที่สามารถลงลึกถึงกล้ามเนื้อและเส้นประสาทส่วนปลาย PMS จึงช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพ และเป็นทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่มองหาวิธีบำบัดที่ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ดีเยี่ยม
หากคุณต้องการจอง การกระตุ้นแม่เหล็กแบบรอบข้าง ออนไลน์ กับนักกายภาพบำบัดมืออาชีพ Bettermove Clinic คือศูนย์การกระตุ้นแม่เหล็กแบบรอบข้าง ใกล้ฉัน ที่ให้บริการคุณภาพสูง พร้อมราคาที่เข้าถึงได้
ประโยชน์ของการใช้เครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (PMS) ในการกายภาพบำบัด
การทำงานของเครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (PMS) ในการกายภาพบำบัด
เครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่สามารถเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อและระบบประสาทส่วนปลายได้โดยตรง ความสามารถในการกระตุ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้อนี้ ทำให้เกิดการฟื้นตัวและซ่อมแซมในบริเวณที่มีปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ต่างจากเครื่องกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้าผ่านผิวหนัง (TENS) ที่คลื่นไฟฟ้าสามารถเข้าถึงได้เพียงระดับผิวหนังเท่านั้น PMS สามารถเข้าถึงและกระตุ้นระบบประสาทในชั้นกล้ามเนื้อที่ลึกกว่า ทำให้การรักษาในการกายภาพบำบัดมีประสิทธิภาพสูง และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนัง
PMS กายภาพ: เครื่องมือสำคัญในกายภาพบำบัดสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง
PMS เหมาะสำหรับใครบ้าง
การใช้เครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ในการกายภาพบำบัด เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดจากกล้ามเนื้อและระบบประสาท เช่น อาการปวดหลัง อาการชาจากปลายประสาทอักเสบ หรืออาการปวดจากกล้ามเนื้อสะโพก พิริฟอร์มิส นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งจากโรคหลอดเลือดสมอง หรือผู้ป่วยที่มีภาวะไขสันหลังบาดเจ็บ ผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นฟูและเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคตก็สามารถได้รับประโยชน์จากการใช้ PMS ในการกายภาพบำบัดได้เช่นกัน
การใช้เครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาอาการปวดเรื้อรังหรืออาการที่เกิดจากการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา ผู้ป่วยที่ผ่านการผ่าตัดหรือได้รับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุก็สามารถใช้ PMS ในการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแอ หรือผู้ที่ต้องการป้องกันการเกิดปัญหากล้ามเนื้อและเส้นประสาทในอนาคต
การใช้เครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS ในการกายภาพบำบัดเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อและเส้นประสาท และต้องการการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรัง ผู้ที่ผ่านการผ่าตัดหรือได้รับการบาดเจ็บ หรือแม้กระทั่งผู้ที่ต้องการป้องกันการเกิดปัญหากล้ามเนื้อและเส้นประสาทในอนาคต PMS สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและฟื้นฟูระบบประสาทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มที่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง PMS และ TENS
หลายคนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเครื่องกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้าผ่านผิวหนัง (TENS) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการที่ใช้ในการกายภาพบำบัดเพื่อรักษาอาการปวดและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ แต่ PMS มีความแตกต่างที่สำคัญจาก TENS โดยเฉพาะในเรื่องของความลึกในการกระตุ้นและการไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ใช้ใน PMS สามารถเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อและระบบประสาทส่วนปลายได้ลึกกว่า TENS ทำให้สามารถกระตุ้นกล้ามเนื้อและเส้นประสาทในระดับที่ลึกกว่าซึ่งเหมาะสมกับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรังหรือมีปัญหากล้ามเนื้อและเส้นประสาทที่ต้องการการรักษาที่เข้มข้น PMS ยังมีข้อดีในการลดอาการปวดและการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการกายภาพบำบัดสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหรือภาวะเส้นประสาทและกล้ามเนื้อที่ต้องการการรักษาที่ลึกซึ้ง
PMS: เทคโนโลยีเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ไม่เจ็บปวดและปลอดภัยสูง
การใช้เครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า PMS เป็นวิธีการที่ไม่เจ็บปวดและมีความปลอดภัยสูงในการกายภาพบำบัด ซึ่งเหมาะสมกับผู้ป่วยทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุ เนื่องจาก PMS สามารถปรับความแรงของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละราย ทำให้การรักษามีความยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนตามสภาพร่างกายของผู้ป่วยได้
ในระหว่างการรักษา ผู้ป่วยจะรู้สึกสบายและไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด ๆ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะทำงานโดยการกระตุ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้ออย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ การใช้ PMS ในการกายภาพบำบัดนี้สามารถทำควบคู่กับการรักษาอื่น ๆ ได้ เช่น การนวดกายภาพบำบัด หรือการทำยิมนาสติกเบา ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฟื้นฟูร่างกาย
การใช้เครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบรอบข้าง (Peripheral Magnetic Stimulation: PMS) เป็นเทคโนโลยีกายภาพบำบัดที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อจากการทำงาน หรือภาวะปลายประสาทอักเสบ PMS ยังช่วยลดภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง อัมพาต หรือไขสันหลังบาดเจ็บ อีกทั้งยังเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย ไม่เจ็บ ไม่ระคายเคืองผิวหนัง และใช้ร่วมกับการรักษาอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณกำลังมองหาวิธีบำบัดที่ปลอดภัยและได้ผลเร็ว PMS คือทางเลือกที่เหมาะสม โดยเฉพาะในคลินิกกายภาพบำบัดที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ