กายภาพบำบัด

ท่าบริหารลดปวดคอและบ่า: แบบฝึกกายภาพบำบัดสำหรับคอและบ่าที่สามารถทำเองได้

ท่าบริหารลดปวดคอและบ่า

อาการปวดคอและบ่าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ ผู้ที่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์นาน ๆ หรือแม้แต่คนทั่วไปที่มีพฤติกรรมใช้งานกล้ามเนื้อส่วนบนผิดท่า ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจนำไปสู่อาการ Office Syndrome หรือแม้แต่ภาวะกระดูกคอเสื่อมก่อนวัยได้

ในบทความนี้ Bettermove Clinic จะพาทุกคนมารู้จักกับ ท่าบริหารลดปวดคอและบ่า ที่สามารถทำเองได้ที่บ้านอย่างปลอดภัย ตามหลักกายภาพบำบัด พร้อมคำอธิบายอย่างละเอียด

ท่าบริหารลดปวดคอและบ่า

สาเหตุหลักของอาการปวดคอและบ่า

ก่อนเริ่มฝึก เรามาทำความเข้าใจกับสาเหตุของอาการปวดคอและบ่ากันก่อน เพื่อจะได้เลือกวิธีการดูแลที่ตรงจุด

ท่านั่งหรือท่ายืนที่ไม่ถูกต้อง

  • การก้มมองจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน
  • ยกไหล่โดยไม่รู้ตัว ทำให้กล้ามเนื้อบ่าเกร็งตลอดเวลา

ความเครียดสะสม

  • ความเครียดส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนคอ บ่า และไหล่ หดเกร็งโดยอัตโนมัติ ทำให้เกิดการตึงและเจ็บ

การใช้กล้ามเนื้อซ้ำ ๆ โดยไม่มีการผ่อนคลาย

  • เช่น คนที่ใช้เมาส์หรือคีย์บอร์ดนาน ๆ คนที่ยกของบ่อย หรือผู้ที่ทำกิจกรรมเดิม ๆ ซ้ำ ๆ

ประโยชน์ของการบริหารคอและบ่า

  • ลดอาการปวดและตึงกล้ามเนื้อ
  • เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและข้อต่อ
  • กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังกล้ามเนื้อ
  • ป้องกันอาการ Office Syndrome
  • ลดความเสี่ยงของกระดูกคอเสื่อม

ท่าบริหารลดปวดคอและบ่าที่สามารถทำเองได้

ทุกท่าที่แนะนำนี้สามารถทำได้ทุกวัน ใช้เวลาเพียง 10–15 นาทีต่อวัน เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานออฟฟิศหรือมีอาการปวดเรื้อรังบริเวณคอและบ่า

ข้อแนะนำ: ควรบริหารด้วยท่าที่ถูกต้องและค่อย ๆ ทำอย่างช้า ๆ หากรู้สึกเจ็บหรือเวียนศีรษะให้หยุดทันที

Smiling woman stretching neck muscles while listening music and practicing yoga at home

1. ท่าหันศีรษะซ้าย–ขวา (Neck Rotation)

วิธีทำ

  • นั่งตัวตรง กางไหล่ผ่อนคลาย
  • ค่อย ๆ หันศีรษะไปทางซ้ายให้ไกลที่สุด โดยไม่ยกไหล่
  • ค้างไว้ 5 วินาที แล้วหันกลับมาตรงกลาง
  • ทำซ้ำอีกข้าง
    จำนวน: 10 ครั้ง / ข้าง

2. ท่าก้ม–เงยคอ (Neck Flexion and Extension)

วิธีทำ

  • ก้มคางลงให้แนบอก ค้างไว้ 5 วินาที
  • เงยหน้าขึ้นมองเพดานอย่างช้า ๆ
    จำนวน: 10 ครั้ง
ท่าบริหารลดปวดคอและบ่าท่ายืดคอบ่าแบบเฉียง
ท่ายืดคอบ่าแบบเฉียง

3. ท่ายืดคอบ่าแบบเฉียง (Upper Trapezius Stretch)

วิธีทำ

  • นั่งหรือลุกยืน หลังตรง
  • ใช้มือข้างขวาจับศีรษะด้านซ้าย ดึงเบา ๆ ไปด้านขวา จนรู้สึกตึงที่คอและบ่าซ้าย
  • ค้างไว้ 20 วินาที แล้วสลับข้าง
    จำนวน: 3 ครั้ง / ข้าง

4. ท่ากลิ้งไหล่ (Shoulder Roll)

วิธีทำ

  • นั่งหลังตรง ผ่อนคลายแขนทั้งสองข้าง
  • หมุนไหล่ไปข้างหน้าเป็นวงกลมช้า ๆ 10 รอบ
  • หมุนย้อนกลับอีก 10 รอบ
    จำนวน: 2 เซต

5. ท่าบีบสะบัก (Scapular Squeeze)

วิธีทำ

  • ยืนหรือนั่งหลังตรง
  • ดึงสะบักทั้งสองข้างเข้าหากันให้แน่น ค้างไว้ 5 วินาที
  • ผ่อนคลายกลับสู่ท่าเดิม
    จำนวน: 10 ครั้ง

6. ท่ายืดกล้ามเนื้อ Levator Scapulae

วิธีทำ

  • หันศีรษะไปด้านขวาเล็กน้อย
  • ก้มหน้าไปทางรักแร้ขวา ใช้มือขวาดึงศีรษะเบา ๆ เพิ่มการยืด
  • ค้างไว้ 20 วินาที แล้วสลับข้าง
    จำนวน: 2–3 ครั้ง / ข้าง
Unrecognized manual therapist taping yellow tape on patient shoulder in wellness center

เมื่อไหร่ควรปรึกษานักกายภาพบำบัด?

หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบเข้ารับการตรวจประเมินจากนักกายภาพบำบัด:

  • ปวดคอและบ่าต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์
  • มีอาการชา ปวดร้าวลงแขน
  • เคลื่อนไหวคอหรือไหล่ได้น้อยกว่าปกติ
  • รู้สึกเวียนหัวเวลาหันศีรษะ
  • เคยมีประวัติหมอนรองกระดูกคอเสื่อม หรืออุบัติเหตุที่คอ

ทำไมควรเลือก Bettermove Clinic ดูแลอาการปวดคอและบ่า?

ที่ Bettermove Clinic เราเน้นการรักษาแบบองค์รวมโดยใช้เครื่องมือทันสมัยและเทคนิคการฟื้นฟูที่ได้มาตรฐาน เช่น:

  • Focused Shockwave Therapy
  • อัลตราซาวนด์ความถี่สูง
  • Dry Needling ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อลึก
  • Manual Therapy โดยนักกายภาพบำบัดเฉพาะทาง
  • โปรแกรมออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ท่าบริหารคอและบ่าควรทำบ่อยแค่ไหน?

แนะนำให้ทำวันละ 1–2 ครั้ง โดยเฉพาะหลังตื่นนอน และก่อนนอน หรือหลังจากนั่งทำงานนาน ๆ เพื่อคลายกล้ามเนื้อ

ถ้ามีอาการเจ็บเวลาทำท่าบริหาร ควรหยุดไหม?

ควรหยุดทันที และปรึกษานักกายภาพบำบัดเพื่อวิเคราะห์สาเหตุ และปรับโปรแกรมให้เหมาะสม

ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะเห็นผล?

หากทำสม่ำเสมอจะเริ่มรู้สึกดีขึ้นภายใน 1–2 สัปดาห์ และหากมีการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง อาการจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดใน 1 เดือน

สรุป

การดูแลตัวเองด้วย ท่าบริหารลดปวดคอและบ่า เป็นทางเลือกที่ง่ายและปลอดภัย โดยเฉพาะหากทำอย่างถูกวิธี และสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอาการปวดได้อย่างยั่งยืน และหากคุณต้องการคำแนะนำเฉพาะทางหรือฟื้นฟูอาการเรื้อรัง Bettermove Clinic พร้อมให้บริการโดยนักกายภาพบำบัดมืออาชีพ

กายภาพบำบัด ย่านสาทร ย่านสีลม ติดต่อเรา

เบทเทอร์มูฟคลินิก คลินิกกายภาพบำบัดใจกลางสาทรและสีลม

Tags :

Share This :

อ่านเพิ่มเติม

Leave a Reply

Discover more from คลินิกกายภาพบำบัดใกล้ฉัน Bettermove Clinic

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading

Schedule Appointment

Fill out the form below, and we will be in touch shortly.

Contact Information
Services
Preferred Date and Time Selection