สาระสำคัญ
หมอนรองกระดูกต้นคอเสื่อมหรือกดทับเส้นประสาท คืออะไร?
หมอนรองกระดูกต้นคอเป็นโครงสร้างที่อยู่ระหว่างกระดูกคอแต่ละข้อ ทำหน้าที่รองรับแรงกระแทกและช่วยให้กระดูกคอเคลื่อนไหวได้อย่างนุ่มนวล เมื่อหมอนรองกระดูกเสื่อมลงหรือเกิดการเคลื่อนตัวไปกดทับเส้นประสาท จะส่งผลให้เกิดอาการปวดคอ ไหล่ แขน และมือ ซึ่งอาจรุนแรงจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
สาเหตุของหมอนรองกระดูกต้นคอเสื่อมและกดทับเส้นประสาท
- อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมลงตามธรรมชาติ
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การนั่งทำงานนาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ หรือก้มเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน
- อุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บบริเวณคอ เช่น อุบัติเหตุทางรถยนต์หรือการกระแทกอย่างรุนแรง
- โรคที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคข้อเสื่อมหรือกระดูกคอเสื่อม
นิสัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดหมอนรองกระดูกต้นคอเสื่อมหรือกดทับเส้นประสาท
- การนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อคอรับน้ำหนักมากกว่าปกติ
- การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์โดยไม่ปรับระดับหน้าจอให้อยู่ในระดับสายตา
- การนอนหมอนที่ไม่เหมาะสม เช่น หมอนสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป
- การยกของหนักผิดท่า โดยเฉพาะการใช้คอแบกรับน้ำหนักมากเกินไป
- การออกกำลังกายผิดท่า เช่น การเล่นเวทที่ใช้คอรับน้ำหนักมากเกินไป
- การขาดการออกกำลังกาย ทำให้กล้ามเนื้อรอบ ๆ กระดูกคออ่อนแอ

อาการของหมอนรองกระดูกต้นคอเสื่อมหรือกดทับเส้นประสาท
- อาการปวดต้นคอ ไหล่ และหลังส่วนบน
- อาการปวดร้าวลงไปที่แขนหรือมือ
- อาการชา อ่อนแรง หรือสูญเสียความรู้สึกบริเวณแขนและมือ
- เวียนศีรษะหรือเสียการทรงตัว ในบางกรณีอาจมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย
- ในกรณีรุนแรง อาจมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อแขนและมือจนส่งผลต่อการทำกิจวัตรประจำวัน
กระบวนการรักษาทางกายภาพบำบัด
กายภาพบำบัดเป็นการรักษาที่ช่วยลดอาการปวด บรรเทาความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และช่วยฟื้นฟูความสามารถในการเคลื่อนไหว โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนดังนี้
1. การประเมินอาการเบื้องต้น
- นักกายภาพบำบัดจะซักประวัติและตรวจร่างกาย
- ทดสอบการเคลื่อนไหวของคอและแขน รวมถึงระดับความเจ็บปวด
- อาจใช้เทคนิคกดจุด หรือทดสอบแรงต้านของกล้ามเนื้อเพื่อดูว่ามีปัญหาจุดไหนบ้าง
2. เทคนิคการรักษาทางกายภาพบำบัด
- การบำบัดด้วยมือ (Manual Therapy) เช่น การนวดคลายกล้ามเนื้อ การขยับข้อต่อ
- การบำบัดด้วยเครื่องมือทางกายภาพ เช่น Ultrasound Therapy, Electrotherapy, Shockwave Therapy
- การออกกำลังกายฟื้นฟู (Exercise Therapy) เช่น ท่ายืดกล้ามเนื้อ การเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
การดูแลตัวเองก่อนเข้ารับกายภาพบำบัด
ก่อนเข้ารับการทำกายภาพบำบัด ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อให้ได้รับผลการรักษาที่ดีที่สุด
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวและตอบสนองต่อการรักษาได้ดีขึ้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อและข้อต่อทำงานได้อย่างราบรื่น
- สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้สะดวก
- งดรับประทานอาหารมื้อหนักก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อลดความอึดอัดระหว่างทำกายภาพบำบัด
- แจ้งนักกายภาพบำบัดหากมีโรคประจำตัวหรืออาการเจ็บป่วยอื่น ๆ เพื่อให้สามารถปรับโปรแกรมการรักษาให้เหมาะสม
การดูแลตัวเองหลังเข้ารับกายภาพบำบัด
หลังจากการทำกายภาพบำบัด ผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพและลดโอกาสเกิดอาการกำเริบ
- ทำท่ากายภาพบำบัดต่อเนื่อง ตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัด
- หลีกเลี่ยงท่าทางที่ทำให้อาการแย่ลง เช่น การก้มหน้าเป็นเวลานานหรือยกของหนัก
- ปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น ปรับระดับจอคอมพิวเตอร์ให้พอดีกับสายตา
- เลือกหมอนที่รองรับต้นคอได้ดี ไม่สูงหรือต่ำเกินไป
- ทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เช่น ออกกำลังกายเบา ๆ ว่ายน้ำ หรือโยคะ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อ
- หากมีอาการปวดหรือเจ็บมากขึ้น ควรแจ้งนักกายภาพบำบัดทันที
สรุป – หมอนรองกระดูกต้นคอเสื่อมต้องรีบรักษาก่อนเกิดภาวะแทรกซ้อน
หมอนรองกระดูกต้นคอเสื่อมหรือกดทับเส้นประสาทเป็นภาวะที่พบได้บ่อยและอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต การรักษาด้วยกายภาพบำบัดเป็นแนวทางที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง สามารถช่วยลดอาการปวดและฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกายได้อย่างยั่งยืน ผู้ที่มีอาการควรเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องและดูแลตนเองตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัดเพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
กายภาพบำบัด ย่านสาทร ย่านสีลม ติดต่อเรา
เบทเทอร์มูฟคลินิก คลินิกกายภาพบำบัดใจกลางสาทรและสีลม
- TEL: 0981671709
- LINE: https://lin.ee/A1kgZ0f
- Address: ชั้น17 อาคารสาทรธานี 2 N Sathon Rd, Silom, Bang Rak, Bangkok 10500



